»»จดทะเบียนบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ดี?
เมื่อเราตัดสินใจว่าจะทำธุรกิจเป็นของตนเองและรู้แล้วว่าจะทำธุรกิจประเภทใดแล้ว สิ่งที่ต้องตัดสินใจต่อไป คือเลือกว่าจะดำเนินธุรกิจในรูปแบบใด ซึ่งธุรกิจสามารถแบ่งออกได้เป็น ประเภทต่าง ๆ ซึ่งมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่า ธุรกิจของท่านควรดำเนินการในรูปแบบใด
บุคคลธรรมดา
บุคคลธรรมดา นั่นก็คือ “ธุรกิจเจ้าของคนเดียว” ลักษณะของกิจการประเภทนี้คือ การคิดตัดสินใจและการกระทำต่าง ๆ เป็นสิทธิของผู้เป็นเจ้าของเพียงคนเดียว ซึ่งผลดีคือตัดสินใจง่ายและรวดเร็ว
แต่ผลจากการคิดคนเดียว ไม่ว่าจะ…ได้กำไร หรือ….ขาดทุน ก็ต้องรับผลนั้นคนเดียวเต็ม ๆ ซึ่งลักษณะธุรกิจประเภทนี้จะดีมาก ในกรณี ถ้าเจ้าของไม่มีปัญหาเรื่องเงินทุนหมุนเวียน เพราะธุรกิจประเภทนี้ไม่สามารถระดมทุนจากใครได้
ลักษณะการเสียภาษี เป็นไปตาม “อัตราก้าวหน้า” ซึ่งหมายถึง ถ้ารายได้มาก ก็จะเสียภาษีมาก โดยอัตราภาษี สูงสุด ถึง 35 % ของกำไรหลังหักค่าใช้จ่าย ซึ่งค่าใช้จ่ายของกิจการประเภทบุคคลธรรมดา จะถูกกำหนดไว้ เป็น 2 ลักษณะ คือ
- อัตราเหมา (กำหนดเป็นปอร์เซ็นต์ตายตัวตามประเภทของธุรกิจ)
- ค่าใช้จ่ายตามจริง(ต้องอ้างอิงเอกสารค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่สรรพากรยอมรับได้ หลังจากนั้นจึงนำมาหักค่าลดหย่อนส่วนตัว จึงจะเป็นฐานภาษีสำหรับคำนวณภาษีที่ต้องชำระ )
นิติบุคคล
กรณีนี้เป็นรูปแบบธุรกิจที่บุคคล 2 คนขึ้นไป ตกลงทำกิจการร่วมกัน โดยมีวัตถุประสงค์จะแบ่งเป็นผลกำไร ตามอัตราส่วนที่แต่ละคนได้ลงทุน
ซึ่งแบ่งได้ดังนี้
- ห้างหุ้นส่วนสามัญ
ลักษณะธุรกิจประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนิติบุคคล ถ้าจดทะเบียน มีสถานะเป็นนิติบุคคล เรียกว่า “ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล”
ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดชอบในหนี้สินไม่จำกัดจำนวน
การจัดทำบัญชีและเสียภาษี การเสียภาษีเงินได้ของคณะบุคคลจะเสียภาษีเงินได้เหมือนกับบุคคลธรรมดาที่แยกออกจากตัวบุคคล ถือเป็นบุคคลอีกคนหนึ่งตามมาตรา 56 วรรค (2) ของประมวลรัษฏากร
และนอกจากนี้เงินส่วนแบ่งกำไรจากห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ด้วย
- ห้างหุ้นส่วนจำกัด
ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ความรับผิดชอบของผู้เป็นหุ้นส่วนแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
- ผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิด คือ รับผิดชอบในหนี้สินจำกัด ไม่เกินเงินที่ได้ลงทุนไป ซึ่งหุ้นส่วน ประเภทนี้จะไม่มีสิทธิในการตัดสินใจในกิจการ
- ผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิด คือ รับผิดชอบในหนี้สิน “ไม่จำกัดจำนวน” หุ้นส่วนประเภทนี้คือ “หุ้นส่วนผู้จัดการ”
ซึ่งหุ้นส่วนประเภทนี้จะมีหน้าที่รับผิดชอบ และมีสิทธิเต็มที่ในการตัดสินใจใน เรื่องต่าง ๆ ของกิจการ
การจัดทำบัญชีและเสียภาษี มีหน้าที่ต้องจัดทำบัญชี เหมือนกรณีตั้งบริษัท และเสียภาษีตามอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล
- บริษัทจำกัด
มีสภาพเป็นนิติบุคคล มีผู้เริ่มก่อการจัดตั้งบริษัท ไม่น้อยกว่า 3 คน
ผู้ถือหุ้นรับผิดชอบไม่เกินจำนวนค่าหุ้นที่ยังชำระไม่ครบถ้วน
สามารถระดมทุนได้มากและง่ายกว่าธุรกิจรูปแบบอื่น
ลักษณะการตัดสินใจในการบริหารงานเป็นในรูปของคณะกรรมการบริษัท จึงทำให้ได้รับความน่าเชื่อถือมากกว่าแบบบุคคลธรรมดา
การจัดทำบัญชีและเสียภาษี มีหน้าที่ต้องจัดทำบัญชีและเสียภาษีตามอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล